ผลงานเทรด หลัง Fulltime

    สำหรับพอร์ต FXThunder  พอร์ตนี้ รอมานานมากนะครับกว่าจะเริ่มต้นเทรดใหม่ จากตลอด 1 ปีหลังจาก Fulltime Trader  ยอมรับเลยว่าผิดแผนจากที่ตั้งใจไว้ คือให้เวลานานสุด 6 เดือน น่าจะเริ่มเทรดแบบเสถียรได้ แต่ผ่านไปเป็นปี ถึงเกิดพอร์ตนี้ขึ้นมา
           ความมั่นใจตัวเอง เรื่องความสามารถว่า ถ้าหากอยากทำอะไรก็ต้องทำสำเร็จได้  ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ เพราะเคยทำได้ 5% 10% 50% หรือ 100% ต่อเดือนก็เคยทำได้แล้ว แค่มันไม่เสถียรเท่านั้นเอง เลยคิดว่าถ้าทำเต็มเวลา และมีเวลากับมัน ก็น่าจะทำให้การเทรดมีความเสถียรได้
           เดือนที่ผ่านมาถือว่าทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว แต่การเร่งรอบทำให้ Overtrade เลยต้องยอม Cutloss จนพอร์ตติดลบ แต่ก็ปั่นกลับมาได้ 40% ภายในครึ่งเดือน ส่วนเดือนนี้ ครึ่งเดือน 50% ละ แต่ต้องดูว่าจบเดือนนี้จะทำได้เท่าไหร่ ไม่อยากเร่ง กลัวว่าจะ Overtrade เหมือนเดือนที่แล้ว
           สาเหตุที่ต้อง Cutloss นั้นเกิดจากการใช้ Time Frame ไม่เหมาะสมกับทุน คือเทรดใน TF M30 และเทรดหลายคู่เงินเกินไป เวลาที่โดนลาก หลายๆ คู่พร้อมกัน ทำให้เกิดความเสี่ยง ดังนั้นเดือนนี้เลยเปลี่ยนเป็นเทรดเป็น TF H4 และยังคงคู่เงินที่เทรดเหมือนเดิม ปัญหาที่พบคือ จังหวะเข้าออกน้อยลงเยอะ แต่การโดนลาก ยังมีมากอยู่ ก็ต้องดูว่าเดือนนี้จะแก้ไข ได้หรือเปล่า 
        
        เริ่มถอนเงินบ้าง มันเป็นอะไรที่ดี ถึงแม้ตั้งแต่ Fulltime จะไม่เคยเติมเพิ่ม แต่ก็ไม่เคยถอนเลย 

 

เปิด Copy Trade เพื่อน้อง

          ได้ฤกษ์งามยามดีอีกอย่างนะครับ คือเปิดระบบ  Copy Trade ผ่าน FBS Application ชื่อ FBS CopyTrade

      ลักษณะของการ Copy Trade ก็คือ เราลงทุน โดยฝากเงิน เข้าไปในบัญชี แล้วก็เลือก Master หรือ Professional Trader หรือคนที่จะให้เรา Copy ตามตัวอย่าง Traders List ดังรูปด้านล่างนี้
         หลักในการการทำกำไร หรือขาดทุนก็จะขึ้นอยู่กับคนที่เรา Copy เช่น Master มีทุน 1,000$ ทำกำไรต่่อเดือน 10% ก็คือทำกำไรต่อเดือน 100$ 
       หากเราทำการ Copy Trade กับ Master ท่านนี้ ด้วยทุน 100$ เมื่อเราหยุด Copy เราจะได้ผลกำไร 10% เหมือนกัน แต่คิดจากเงินทุนของเราตามสัดส่วนที่เราควรได้รับก็คือ 10% ของทุน 100$ เราก็จะกำไร 10$ ต่อเดือน อันเป็นหลักการในการคิดกำไรขาดทุน
       แต่ในทางกลับกัน หาก Master ที่เราเลือก Copy แล้ว Master ท่านนั้นทำพอร์ตขาดทุนในเดือนนั้น ขาดทุน 15% จากทุน 1,000$ จะคิดเป็นขาดทุนในเดือนนั้น 150$ ตัวคนที่ Copy ก็จะขาดทุน 15% จากทุนของตัวเอง 100$ คือจะขาดทุน 15$ เป็นต้น นี่คือหลักการคำนวณ กำไรขาดทุนในการ Copy Trade
       ที่แอดมินแนะนำการ Copy Trade แบบนี้ เพราะว่า นักลงทุนไม่มีความยุ่งยากในการลงทุน ขั้นตอนในการลงทุนก็ง่ายๆ แค่สมัคร ฝากเงินลงทุน เลือก Master ที่เราไว้ใจ เพียงเท่านี้ ก็สามารถลงทุนได้ง่ายๆ แล้ว ไม่ต้องเช่า Server ไม่ต้องมี EA ไม่ต้องเสียเวลาเทรดเอง เพียงแต่เลือก Master ที่ท่านไว้ใจ

    วันนี้ผมจะมาแนะนำ ขั้นตอนในการ Copy Trade ผ่าน FBS Copy Trade
     ทำไมต้องเป็น FBS Copy Trade 
     เหตุผลคือ แอดมินใช้โบรก FBS มาหลายปี ซึ่งสำหรับแอดมิน ถือเป็นโบรกที่น่าเชื่อถือในการใช้เทรด Forex เพราะฝากถอนเร็ว ฝากเร็วมากไม่เกิน 2 นาที เงินก็เข้าพอร์ตแล้ว ส่วนการถอน ประมาณ 15 นาทีโดยประมาณ ซึ่งถือว่าเร็วสำหรับแอดมินนะครับ โดยวิธีการฝากถอนของแอดมินคือ ทำผ่าน Internet Mobile Banking
       เดี๋ยวเรามาเริ่มต้นการ Copy Trade กันเลยนะครับ
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการ Copy Trader ต้องมีอะไรบ้าง
1. ต้องเปิดบัญชีหรือเป็นสมาชิกของโบรก FBS หากใครเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ข้อนี้
   ไม่ต้องทำ แต่หากใครยังไม่มี แนะนำสมัครผ่านลิงค์นี้นะครับ 
2. โหลด Application ที่มือถือผ่าน Play Store หรือ App Store  
3. หลังจากโหลด Application แล้วเปิดจะเจอหน้าต่างนี้ จะอนุญาตให้ Application เป็น Location ของเราหรือเปล่า โดยแอดมินจะเลือก Allow only while using the app คือให้เห็น Location ของเราได้ ณ ตอนที่เปิดใช้ Application เท่านั้น

4. หลังจากนั้นจะเข้าสู่หน้าต่างของ Application FBS Copy Trader ดังรูปด้านล่างนี้
   หากเรายังไม่บัญชีกับ FBS ก็ให้เปิดก่อนตามลิงค์ในข้อ 1 หรือมีแล้วให้เลือกเมนู    
   Login ได้เลย

5. ให้ทำการกรอก Email address และ Password ของบัญชีเรา แล้วกด Login
 
6. หลังจาก Login เรียบร้อย เราก็เข้าสู่ FBS Copy Trade เรียบร้อย โดยหลักการถือว่าใช้ได้แล้ว เหลือคือต้องฝากเงินเพิ่ม แต่เราค่อยทำทีหลัก มาดูหลักการต่อไปก่อน

7. จากรูปในข้อ 6 เราต้องเลือกฝากเงินในการลงทุนก่อน ซึ่งขั้นต่ำคือ 500 บาท จะเราจะรับกำไร เป็นสัดส่วนของเงินที่ลงทุน คือฝากน้อยได้กำไรน้อย ฝากมากได้กำไรมากตามสัดส่วนที่ Master ทำกำไรไว้

   หากต้องการฝากเงิน ให้กดที่ปุ่ม Deposit ระบบจะเชื่อมต่อไปหาระบบ Internet Banking Online ตามที่โบรก FBS มีไว้ให้บริการกับลูกค้า ดังรูปด้านล่างนี้ 

   ซึ่งก็มีไว้ให้บริการเยอะแยะเลย แล้วแต่ท่านสมาชิกจะสะดวกใช้บริการธนาคารไหน 
หากท่านยังไม่ได้สมัครโดนเงิน Online ก็แนะนำให้สมัครก่อน เพราะมันจะสะดวกในการฝากและถอนเงินนะครับ 
    สำหรับขั้นตอนการฝาก จะเป็นรายละเอียดของแต่ละธนาคาร ทางแอดมินขอไม่ขยายความในที่นี้นะครับ คิดว่าท่านสมาชิกน่าจะทำการคล่องแคล่วกันอยู่อยู่ เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัว ใครๆ ก็ทำกันในโลกปัจจุบัน หากทำยังไม่เป็นหรือไม่รู้จักเรื่องการทำธุรกรรม Online แอดมินอยากจะแนะนำด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง ว่าอย่าเพิ่งเทรด Forex หรือลงทุนใน Forex เลย อยากให้ไปทำเรื่องธุรกรรม Online ที่มันใกล้ตัวให้คล่องก่อน เพราะเรื่องเหล่านี้ เราควรทำด้วยตัวเอง อย่าฝากเงินใคร หรือฝากคนอื่นๆ ที่ท่านไว้ใจให้ทำธุรกรรมแบบนี้เลย เพราะมันละเอียดอ่อน เดี๋ยวจากความไว้ใจ จะเป็นความไม่ไว้ใจแทน มิตรภาพดีๆ มันจะหายไปเพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ
8. หลักจากฝากเงินเรียบร้อย เงินจะเข้าในบัญชี FBS Copy Trade จะเห็นหน้าต่างใน Application แบบนี้

    หลังจากเราฝากเงินเข้าไปแล้ว ตัวทุนทั้งหมดที่เราฝากเข้าไป จะแสดงที่ Variable จากรูปจะมีทุนทั้งหมด 112.89$ 
9. มาถึงขั้นตอนในการลงทุน ให้กดตรงเครื่องหมาย + Add Investment จะเห็นรายชื่อ Master trader ที่เขาอนุญาตให้เรา Copy Trade ดังรูปด้านล่างนี้

     แต่ละ Master ก็จะมีรายละเอียดของผลงาน บ่งบอกคุณลักษณะของ Master แต่ละท่านว่าเป็นอย่างไร ให้สมาชิกพิจารณาเองว่า จะเลือก Copy กับท่านไหน  

10. หรือให้สมาชิกเลือกพิมพ์ค้นหา Master ที่เราต้องการหรือรู้จักชื่อก็ได้ เช่น พิมพ์คำว่า Korn ในช่องค้นหาท่านจะเจอ Master ที่ Admin อยากแนะนำนะครับ คือ Master ที่ใช้ชื่อว่า KornFX 

     หลังจากนั้นให้สมาชิกเลือกกดเลือก KornFX Master จะปรากฏหน้าต่าง ดังรูปด้านล่างนี้

      จากนั้นกด Start Copying ตรงมีเมนูด้านล่าง จะเห็นหน้าต่างปรากฏดังรูปด้านล่าง

    จากนั้นให้ท่านสมาชิก พิมพ์จำนวนเงินลงทุนที่ท่านต้องการลงทุน ซึ่งท่านสามารถกำหนดเองได้ เช่น 50$ 100$ หรือเงินทั้งหมดที่ท่านมีก็ได้ แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงท่านไม่จำเป็นต้องลงทุน Copy Trade กับ Master คนเดียวก็ได้ ท่านสามารถแบ่งเงินลงทุนไป ลงทุนกับ Master อื่นๆ ก็ได้ นี่เป็นข้อดีในการลงทุน
    จากตัวอย่างแอดมินเลือกลงทุน กับ Master KornFX จำนวน 101.13$ นะครับ ยังเหลือเงินไว้ในพอร์ต ด้วยไม่ได้ลงทุนทั้งหมด
    เมื่อกรอกเงินลงทุนที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ก็กดที่ปุ่ม Start Copying
แล้วจะปรากฏหน้าต่าง ดังรูปด้านล่างนี้ แสดงสถานะว่า Copyied ดังรูปด้านล่าง

    เท่านี้ก็เป็นการเสร็จขั้นตอนการ Copy Trade จากนี้เราก็รอดูผลงาน หากเริ่มมีกำไร ก็จะแสดงสถานะ กำไรขาดทุนดังรูป 

     ขออธิบายรายละเอียดตรงหน้าต่างนี้นะครับ

      หมายความว่า ตอนนี้คน Copy มีกำไรจากการลงทุน ณ ขณะนี้คือ 10.02$
ดังนั้น หากเราหยุด Copy หรือ Stop Copy Trade ตอนนี้เราจะได้กำไร 10.02$ 
      แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากสถานะที่ Application ที่เรา Copy Trade มีสถานะของ Profit ติดลบอยู่แล้วเรา Stop Copy เราก็จะ ขาดทุนนะครับ อันนี้เป็นเรื่องปกติ หวังว่า ทุกท่านคงเข้าใจ หลักการลงทุน เราจะกำไรอย่างเดียวก็คงไม่ได้ 

        จากรูปข้างต้นเป็นสถานะ ณ ขณะใดขณะหนึ่งนะครับ แต่ไม่เป็นหลักในการลงทุนคือ เราต้องเชื่อ Master ที่เรา Copy เพราะเราศึกษาเป็นอย่างดีแล้วถูกหรือเปล่าครับ ว่า Master ที่เรา Copy เขาจะพาให้เรารอดจากการลงทุน
11. เมื่อเราพอใจผลการเทรดแล้ว เราต้องการ Stop Copy หรือ หยุดลงทุน ก็สามารถทำได้ โดยเลือกกดเข้าไปในรูป Master ที่เรา Copy Trade อยู่ แล้วจะปรากฏหน้าต่างดังรูปด้านล่างนี้

    ให้ท่านกดที่ปุ่ม Stop Investment จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง ดังรูปด้านล่าง

     ให้กดปุ่ม Stop เพื่อยืนยันการหยุดลงทุน อีกครั้ง แล้วจะปรากฏหน้าต่าง ดังรูปด้านล่าง

       จากรูปข้างต้นคือสถานะที่หยุด Copy แล้ว คน Copy ได้กำไรแล้ว 10.02$
หากดูสถานะเงินลงทุนของคน Copy จะเป็นดังรูปด้านล่าง

     สถานะที่เห็นเหมือนกับตอนที่เราเริ่มโอนเงินเข้าไปในพอร์ตเพื่อลงทุน แต่ต่างกันที่ตอนนี้เงินลงทุนของเรา รวมกับกำไรที่ได้จากการลงทุนด้วย 
     แบบนี้ก็ Happy Happy จากการลงทุนถูกหรือเปล่าครับ
     ของฝากจาก Master KornFX ขณะนี้ทาง Master จะอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกที่ Copy ทุกท่านให้มีความสะดวกในการเทรด ทั้งการเริ่มเปิดและเริ่มปิดการ Copy เพื่อเอากำไรเข้าพอร์ต จะมีหลักการดังนี้

@Forexthunder.com@Forexthunder.com

 

       ตอนนี้มี Line@ เพื่อส่งข่าวสารให้กับสมาชิกนะครับ ชื่อ @Forexthunder.com หากต้องการข่าวสาร ให้ Add Member เพื่อรอรับข่าวสารนะครับ
     หลักๆ คือทาง KornFX Master จะมาส่งข่าวผ่านทาง @Forexthunder.com ว่าจะให้เริ่ม Copy และ Stop Copy ช่วงเวลาไหน 
     ตรงนี้เป็นข้อดี เพราะสมาชิกจะได้เริ่มจาก พอร์ตลงทุนเริ่มต้นเหมือนๆ กับพอร์ตของ Master ทางสมาชิก ก็ไม่จำเป็นต้องกังกลกับ Order เก่า
     และข้อดีอีกอย่างสำหรับสมาชิก @Forexthunder.com คือ ทาง Master KornFX จะหยุดเทรด เมื่อพอร์ตลงทุน ไม่มี Order ค้างในพอร์ต หยุดแล้วแจ้งสมาชิกให้ Stop Copy เพื่อให้สมาชิกถอนเงิน เป็นรอบๆ นะครับ ซึ่งอาจจะเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรืออาจจะ 2 สัปดาห์ครั้ง หรืออาจจะนานเป็นเดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ของตลาดการลงทุนนะครับ
      อย่างน้อยๆ เราก็จะสามารถถอนกำไรออกมาใช้บ้าง หรือถอนกำไรมาเก็บ หรือบางท่านอาจจะถอนกำไร เพื่อเพิ่มทุนเข้าไปในพอร์ต จะทำให้สัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้น กำไรก็จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของทุนนะครับ

 

หยุดข้ออ้างเรื่อง ไม่มีเวลาเทรด

### บางคนมี 108 เหตุผล เพื่อยกมาอ้าง ###
  - ติดงานประจำ ไม่มีเวลาหรอก
    # คุณหยุดเสาร์อาทิตย์หรือเปล่า หากหยุด วันเสาร์อาทิตย์ บาง Products ก็มีให้
      เทรดเสาร์อาทิตย์ได้ คุณมีเวลา 24x7 เลย เลิกอ้างได้แล้ว
  - ติดประชุม
    # คุณต้องประชุมทั้งวันทั้งคืนหรือไง บริษัทมีช่วงเวลาพักเบรก พักเที่ยง เวลาก่อน
      ทำงาน และเวลาหลังเลิกงาน ทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ อีกมากมาย คุณมีเวลา
      เยอะแยะเลย แบ่งมันออกมา แอดว่าใน 1 สัปดาห์ คุณมีเวลาเทรดหรือศึกษาวิธี
      การเทรดหลายชั่วโมงเลย ลองทำดูครับ
  - ติดภาระต้องดูแลครอบครัว
    # ทุกคนต่างมีภาระ คนอื่นเขาแบ่งเวลายังไง มันมีเวลาครับ จัดสรรออกมาให้ได้ 
      หากเพียงแค่จัดเวลายังไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งคิดมาเทรดเลย เลิกคิดก่อน เพราะตลาดนี้
      มันไม่ง่าย ต้องคนขยันครับ
*** ที่แอดยกตัวอย่างข้างต้น เพื่อชี้ให้เห็นทางออกสำหรับคนที่ อยากหารายได้ อยาก
    เรียนรู้เพิ่มเติมนะครับ สำหรับใครที่คิดว่ามีพร้อมอยู่แล้ว แอดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
    ด้วย ที่เอามะพร้าวมาขายสวน ***

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับตลาด Forex

Forex คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยทุกๆ วัน ทุกๆ เวลา ทุกนาที ก็ว่าได้ ทั่วทั้งโลก จะมีการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างกันอยู่แล้ว  สังเกตง่ายๆ ที่เห็นอยู่ทั่วๆ ไป เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่บ้านเรา เขาจะนำเงินประเทศของเขา มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินของบ้านเราก่อน เพื่อให้สะดวกในการใช้สอย โดยการแลกเปลี่ยนนั้น มันจะมีอัตราในการแลกเปลี่ยน เช่น เงินดอลล่าร์ กับ เงินบาท  1:36 คือ เงิน 1 ดอลล่าร์ แลก เงินบาทไทย ได้ 36 บาท เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าเงินของแต่ละประเทศ จะขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ด้วยเหตุนี้เอง จึงเกิดการเก็งกำไรจาก ค่าเงิน ที่เปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เกิดตลาด Forex ขึ้นมา โดยมีธนาคาร หรือ โบรกเกอร์ ต่างๆ เป็นคนกลางหรือตัวแทน ในการซื้อขาย แลกเปลี่ยน
ดังนั้น การซื้อขาย Forex นักลงทุนรายย่อยอย่างเราต้องทำผ่านโบรกเกอร์เท่านั้น

ความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาด Forex

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งๆ ที่ตลาด Forex มันมีมาเป็น 100 ปี และเข้ามาเป็นที่รู้จักในบ้านเรา ก็หลายสิบปีละ ผมมัวไปทำอะไรอยู่ถึงไม่รู้ว่ามันมีช่องทางการลงทุนแบบนี้ หุ้นก็รู้ ทอง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าก็พอจะรู้ แล้ว Forex มันผ่านตาผมไปได้ยังไง

จริงๆ ตั้งใจจะเขียน Blogs ตั้งแต่เดือนแรกแล้ว เพราะว่าพอกระโดดเข้ามาในตลาด Forex แล้ว ทำให้ผมเห็นช่องทาง เห็นโอกาส เห็นขุมทรัพย์มหาศาล ในตลาด Forex (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลข่าวสาร ค่อยๆ ศึกษาหาความรู้ แล้วเราจะแยกแยะออกว่า อะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา บางอย่างดีกับคนอื่น อาจจะไม่ดีกับเรา โปรดจำข้อจำกัดนี้ไว้ด้วยนะครับ)
ผมขออนุญาตบอกว่า Forex มันคือ ทะเลมหาสมบัติ หรือ มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติ ผมคิดอย่างนั้นเลยนะครับ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ ก็เพราะเงินจากทั่วทั้งโลกมันมีการแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา ทุกวินาทีก็ว่าได้ เงินทั้งโลกใบนี้เลยนะครับ ถ้าไม่เรียกทะเลสมบัติ แล้วจะเรียกอะไร เงินมีอยู่ในตลาด Forex เหมือนน้ำในทะเล ตักตวงเท่าไหร่ ก็ไม่หมด เพราะเงินมันมีทดแทนกันตลอดเวลา และมันก็ไม่เคย เฮือดแห้งไปไหนเลย มันจะมีคนคอยเอามาเติมเต็มตลอดเวลา

ด้านสภาพคล่อง ไม่ต้องพูดถึง ซื้อตอนนี้ ขายตอนนี้ได้เลย เรียกว่า เปลี่ยนจากการซื้อเป็นการขายได้ทันที ขอให้มีของในมือ (การซื้อขายแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียม โปรดทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อนดำเนินธุรกรรมใดๆ ในตลาด Forex)

อาชีพเทรด Forex หรือ Full Time Trader
ก่อนที่เราจะเทรด Forex อยากทราบก่อนว่า พวกเราทุกท่านอยากเทรด Forex ทำไม มีเหตุผลอะไรบ้าง
เหตุผลในการเทรด Forex หรือที่เข้ามาศึกษา หรือที่พวกเราได้มาคุยกันในวันนี้ ก็เพราะมีเหตุผลหลักๆ คือ ต้องการหารายได้เสริม หารายได้หลัก หาเงินหาทอง สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย
หากเราไม่เทรด Forex เราจะหาเงิน หารายได้อย่างไรบ้าง
ซึ่งมันก็มีด้วยกันมากมาย เช่น
– เป็นพนักงาน ลูกจ้าง
– เป็นเจ้าของธุรกิจ
– ทำกิจการส่วนตัว
– เป็นข้าราชการ หมอ ทหาร ครู เป็นต้น
– เป็นนักลงทุน
เหล่านี้ ล้วนเป็นที่มาของการหารายได้ทั้งนั้น ซึ่งแต่ละอย่าง แต่ละอาชีพ มีดีแตกต่างกัน มีความเหมาะสม กับบางคน บางคนไม่เหมาะ บางคนชอบ บางคนก็ไม่ชอบ แตกต่างกันไป
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ทุกอย่างที่เราทำ ก็เพื่อหารายได้ แหล่งรายได้ ก็คือทุกที่ ที่เล่า แต่เหล่านั้น มันมีข้อจำกัดในเรื่อง ผลตอบแทนที่จะให้คืนกลับมา เช่น การเป็นพนักงาน การขึ้นเงินเดือน จะขึ้นอยู่กับกิจการของบริษัท คะแนนความประพฤติ หัวหน้างาน หรือปัจจัยอื่นๆ ทุกๆ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องหรือข้อจำกัดทั้งสิ้นที่ จะทำให้เรามีรายได้หรือรายรับอย่างจำกัด

กฏการแลกเปลี่ยน (ข้ออ้างอย่าเยอะ)

 

  • SKILL ทักษะ
  • TIME เวลา
  • CASH เงิน
      ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องนี้
      ผมเองเคยเป็นมาก่อน คือ 108 ข้ออ้าง เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ ไม่มีเงิน แต่ก่อนข้ออ้างสารพัด มันมีเหตุผลเยอะแยะมากมายที่จะสรรหามาอ้าง แต่ตอนนี้ข้ออ้างต่างๆ มันคลี่คลายหมดแล้ว เลยอยากจะเอามาแชร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คน 
ผมไม่มีเวลา ผมติดงาน ติดประชุม มีภาระทางครอบครัว บลาๆๆๆ
      หากถามคนส่วนใหญ่ ปัจจัยทั้ง 3 อย่างข้างต้น คือ เงิน เวลา ทักษะ คนเราต้องการอะไรมากที่สุด คนส่วนใหญ่จะตอบว่า Cash หรือ เงิน มาเป็นอันดับแรก ทุกคนต่างแสวงหาเงิน เป็นเป้าหมายแรก 
      จริงๆ แล้วธรรมชาติ มันก็ถูกวางเป็นแบบแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาชัดเจนมาอยู่แล้วนะครับ คือมันเริ่มจาก ตอนที่เราเป็นเด็ก เรามี Time (เวลาเยอะ) มี Skill (ทักษะ) น้อย ส่วน Cash (เงิน) ต้องขอพ่อแม่ ก็คือไม่มีนั่นแหละ เราก็เลยต้องเอาเวลาที่เรามีอย่างมากมายตอนเด็ก ไปเรียนหนังสือ หรือศึกษาหาความรู้ ทั้งในโรงเรียน สถาบันต่างๆ  เพื่อเพิ่มพูนทักษะ เมื่อมีทักษะมากพอแล้ว เราก็เอาทักษะนั้น ไปทำงานเพื่อแลกเป็นเงิน กลับมา มันเป็นวัฏจักรของมันแบบนี้ ถูกต้องหรือเปล่าครับ
       มามองดูตัวเราในปัจจุบัน เราอยู่ตรงไหน เราต้องการอะไร ถามตัวเองก่อน ว่าตอนนี้เรามีอะไรมากที่สุด และอยากได้อะไรมากสุด ถ้าคนที่มีพร้อมทั้ง 3 อย่างก็ผ่านบทความนี้ไปก่อนครับ แต่สำหรับคนที่ยังขาด หรือต้องการเพิ่ม ถามตัวเองให้แน่ชัดก่อน ขาดอะไร แและต้องการอะไร ณ ตอนนี้
       Time + Skill = Cash มันเป็นกฏของการแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งครับ 
แลกเปลี่ยนอย่างไรล่ะ ก็ถ้าหากเราต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น ต้องการรายได้เสริม ต้องทำอย่างไร

ขอยกตัวอย่างนะครับ
มีคนอยู่ 3 ประเภท
      # คนแรก มีเงิน แต่ไม่มีเวลาและไม่มีทักษะ ในสิ่งที่อยากทำมากพอ แต่อยากให้เงินงอกเงยออกดอกออกผล ไม่อยากเก็บเงินไว้เฉยๆ หรือฝากธนาคารแลกกับดอกเบี้ยแสนจะถูก ต้องทำอย่างไร
      # คนที่ 2 มีเวลา แต่ไม่มีเงิน และขาดทักษะ ต้องการรายได้เพิ่ม ต้องการทักษะเพิ่ม ต้องทำอย่างไร
      # คนที่ 3 มีทักษะ อยากมีเวลามากกว่านี้และอยากมีเงินมากกว่านี้ ต้องทำอย่างไร

ทั้ง 3 คน จะแก้ปัญหาในสิ่งที่ตัวเองอยากได้อย่างไร

### คำแนะนำสำหรับคนแรก ###
    เขามีเงินอยู่แล้ว ก็เอาเงินไปจ้างคนที่มีทักษะคือคนที่ 3 ให้ทำงานแทนเรา เราก็จะมีเวลาเพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ต้องทำงาน เมื่อมีเวลา มีเงิน ก็ไปพัฒนาทักษะที่ต้องการเพิ่มได้ นี่คือกฏการแลกเปลี่ยน

$$$ คำแนะนำสำหรับคนที่ 2 $$$
    มีเวลาเยอะ คนนี้ต้องเอาเวลาที่มีไปฝึกทักษะ ไปเรียนในด้านที่ต้องการ เมื่อมีความชำนาญ ก็เอาทักษะนั้น ไปแลกเงิน หรือทำงานแลกเงิน มองง่ายๆ เหมือนเด็กๆ นั่นแหละที่ต้องเรียนหนังสือจนจบ หรือจนมีทักษะด้านนั้นๆ แล้วก็เอาทักษะที่มีมาทำงานเพื่อแลกกับเงิน นี่ก็เป็นกฏการแลกเปลี่ยน

$$$ คำแนะนำสำหรับคนที่ 3 $$$
    เมื่อเขามีทักษะ มีความเชี่ยวชาญ ยิ่งมีชำนาญ เขาจะทำงานเสร็จได้รวดเร็ว เมื่อเขาทำงานเสร็จเร็ว เขาจะได้เวลาเหลือ ทำให้เขารับงานหรือรับจ้างได้มากขึ้น มันก็จะมีเงินและเวลาเพิ่มขึ้นอย่างที่เขาต้องการ 
    
    สรุปง่ายๆ คือ ทั้ง 3 สิ่งมันแลกเปลี่ยนกันได้ ด้วยกฏของการแลกเปลี่ยน
    เวลา + ทักษะ เปลี่ยนเป็น เงิน 
    ทักษะ + เงิน เปลี่่ยนเป็น เวลา
    เงิน + เวลา เปลี่ยนเป็น ทักษะ 
    คนเราไม่หนีจากกฏนี้นะครับ ลองพิจารณาดู

ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจของกฏการแลกเปลี่ยน ทั้ง 3 นี้ ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อน
    - บางคนบอกไม่มีเวลา ไม่มีทักษะในการเทรด คุณมีเงินหรือเปล่า ถ้ามีก็จ้างเขาเทรด 
    - บางคนบอกมีทักษะ ในการเทรด ปัจจุบันการหานายทุน เดี๋ยวนี้มีเยอะ ทักษะที่ว่ามี เจ๋งพอให้นักลงทุนไว้ใจ เอาเงินมาฝากเทรดหรือเปล่า
    - บางคนบอก พอมีทุนนิดหน่อย พอมีเวลาบ้าง แต่ขาดทักษะ อย่างนี้ต้องไปฝึกฝน เรียนรู้ศึกษาหาความรู้ในการเทรด หาอาจารย์ดีๆ มีความน่าเชื่อถือ ศึกษาและเรียนรู้จากเขา 
      เท่านี้เองครับ หากเข้าใจกฏทั้ง 3 เราจะไม่โทษสิ่งแวดล้อม จะทำอะไรก็จะมีความสุข 
      ลองพิจารณาดูนะครับ 
      
      

 

Mindset เกี่ยวกับการเทรด Forex

ผมใช้หลักการดังนี้นะครับ

  • เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า จะ Buy เมื่อไหร่ หรือ Sell คู่เงินนั้นๆ เมื่อไหร่ (ในตลาด Forex ซื้อหรือขาย เป็นคู่เงินนะครับ เช่่น EURUSD  หรือ GBPUSD เป็นต้น )

คือตัวผมเอง ก็ไม่รู้หรือตอบไม่ได้หรอกครับ มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาด ตลาดก็เหมือนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง เขามีอารมณ์และความรู้สึก ดังนั้น เราก็ต้องเรียนรู้ความรู้สึกของเขาให้ได้ เขาจะบิน หรือเขาจะดิ่ง เขาไม่ได้แจ้งใครล่วงหน้า

  • ถ้าอย่างนั้น เราจะรู้ได้ไงถ้าต้องการซื้อหรือขาย EURUSD
    1. เราต้องอยู่กับตลาด เรียนรู้อารมณ์ของตลาด คือคู่เงิน EURUSD ถามว่า ทำไง ก็เหมือนกันกับการมีแฟน ถ้าเรามี แฟน เราก็ต้องเรียนรู้ว่า แฟนของเราเป็นคนยังไง ชอบอะไร อะไรมา กระทบแล้ว เขาหวั่นไหวบ้าง เมื่อเรารู้แล้ว เราก็จะไม่ทำในสิ่งที่แฟนเราไม่ชอบ ถูกไหมครับ
               ช่วงแรก ก็ต้องฝึกสังเกต ว่าเขาเป็นคนยังไง ชอบไปไหน ชอบทำอะไรก่อนหลัง ชอบทานไอติมก่อนข้าว หรือหลังอาหารคาวชอบทานของหวาน หรือดื่มกาแฟ เป็นต้น
    2. เมื่อเราเรียนรู้นิสัยใจคอกันแล้ว เราก็ไม่ต้องจดจ่อหรือสังเกต หรือระมัดระวังอะไรมาก ด้วยความเคยชิน หรืออยู่กันนาน เราก็จะพอรู้จักนิสัยใจคอกันและกัน เคารพและเกรงใจและให้เกียรติกัน ก็จะอยู่กันยืด
    3. ถ้าหากอยากเทรดคู่เงินใหม่ล่ะ เช่น GBPUSD ก็เหมือนกันกับการมีแฟนใหม่ เราก็ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอของแฟนคนใหม่ ทำซ้ำลูปเดิมครับ
    4. ถ้าอยากเทรดหลายคู่เงินล่ะ ก็ได้เหมือนกันกับอยากมีแฟนหลายคน เราก็ต้องดูแลเยอะหน่อย ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอของแต่ละคนว่าเป็นยังไง อย่าให้ขัดแย้งหรือทะเลาะกัน ต้องควบคุมให้ได้

กลยุทธ์การเทรด “เทรดเหมือนจีบสาว”

ก่อนอื่นผมต้องขออภัย คุณผู้หญิงทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือดูหมิ่นผู้หญิงคนไหนเลย แต่สาวที่ผมยกตัวอย่าง มาจากประสบการณ์ตรงของผมเอง สาวที่ผมอ้างในที่นี้คือแฟนผมเอง ผมจะเล่าให้ฟังว่าเธอเหมือนกราฟยังไง

  • เลือก Products หรือคู่เงินที่จะเทรดก่อน ก็เหมือนเจอคนที่เราอยากจีบ อยากแต่งงาน อยากอยู่ด้วยละ 
  • ดูกราฟย้อนหลัง เพื่อประเมินอารมณ์ของ Products ว่าตอนนี้อารมณ์ไหน ขึ้น หรือ ลง หรืออารมณ์เธอขึ้นๆ ลงๆ อยู่ หรือเปล่า ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ต้องสังเกตไปเรื่อยๆ ด้วยการจดบันทึก
  • ดูก่อนว่า ช่วงเวลาไหน อารมณ์เธอเป็นยังไง เดือนนี้อารมณ์เธอเป็นยังไง สัปดาห์นี้เป็นไง แล้วย่อยให้ละเอียดออกมายิ่งละเอียดเท่่าไหร่ ยิ่งดี เพราะเราจะได้เข้าไปจีบเธอได้ถูกช่วงเวลา ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้า เข้าไป มีโดนตะเพิด หรือปฏิเสธให้เราเสียหน้าหรือเสีย Self ไปเลย หรือหนักหน่อย เขาอาจจะมีผัวอยู่แล้ว ก็มีหวังโดนผัวเขายิง หรือว่าที่พ่อตาไล่ยิงแน่ๆ
  • เมื่อรู้อารมณ์ของเธอแล้ว เราก็เข้าได้ถูกทาง เช่น รู้ว่า ช่วงเวลานี้ อารมณ์เธอขึ้นอยู่ เราก็ขึ้นตาม อารมณ์เธอลง เราก็ลงตาม หากอารมณ์เธอขึ้นๆ ลงๆ เราก็ขึ้นๆ ลงๆ ตามด้วย เอาท่าง่ายๆ ก่อน อย่าเพิ่งโยกย้าย ส่ายหัว เดียวจะโดนเธอตบกะบาลเอา
  • การหาจังหวะในการเข้า มี 2 แนวทาง
    1. พริ้วไหวตามสายน้ำ อารมณ์เดียว ถ้าจะให้ดีลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุด ก็ต้องเข้าตอนที่เธอมีอารมณ์เดียว เช่น เลือกเขาตอนเธอมีอารมณ์เดียว เช่น ขึ้น แน่ๆ ค่อยเข้า หรือลงแน่ๆ ค่อยเข้า แล้วตัดสินใจออก เมื่อเธอเริ่มแสดง 2 อารมณ์ให้เห็น เมื่อเริ่มเห็นอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เห็นอะไรก็ดูจะหงุดหงิดไปหมด วันเดียวมี 3 อารมณ์อย่างนี้ เราก็ต้องหาจังหวะดีๆ ถ้าเราเริ่มไม่มั่นใจละ เราก็ถอยออกมาดูสถานการณ์ก่อน เพราะถ้าเรายังอยู่ด้วย อาจจะทะเลาะกัน เราอาจจะโมโห จนควบคุมไม่ได้ อาจจะหนักถึงต้องเลิกลา (ลักษณะนี้คือกราฟเป็น Trend)
    2. หรือใช้กลยุทธ์ซุ่มโจมตีแบบกองโจร เข้าเร็วออกเร็ว ตอนเห็นเธอมี 2 อารมณ์ คือ ถอยตัวเองออกมา เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายละจิตใจ รุกรับต้องเร็ว เพราะสถานการณ์แบบนี้ ออกทางไหนก็ได้ ลักษณะนี้คือกราฟเป็น Sideways

 

หลักในการเทรด โดยใช้ Indicator

โดยหลักในการเทรด จะใช้ Indicator อยู่ 3 ตัว และค่าเงิน Dollar คือ

  • Bollinger Bands
  • Stochastic
  • RSI (Relative Strength Index)
  • Us Dollar เพื่อดูความแข็งอ่อนของค่าเงิน Dollar

กลยุทธที่ใช้สำหรับเทรด ก็คือ เข้า Buy หรือ Sell เมื่อเกิดเงื่อนไข ดังนี้

  1. ดูค่า เงินความแข็งอ่อนของ US Dollar ประกอบการพิจารณา เพราะ ค่าเงิน US Dollar เมื่อมันเกิดค่าแข็งหรืออ่อน มันจะส่งผลกับ สกุลเงินที่มันไปจับคู่ด้วย เช่น
    1. EURUSD คือคู่เงินระหว่าง เงิน Euro จับคู่กับ เงิน Us Dollar
    2. GBPUSD คือคู่เงินระหว่าง เงิน Pound จับคู่กับ เงิน Us Dollar
    3. XAUUSD คือ Gold จับคู่กับเงิน Us Dollar
      จากขอสังเกตนั้น หากดัชนี US Dollar วิ่งขึ้น ทั้ง 3 คู่เงิน จะวิ่งลง
      และในทางกลับกัน หาก Us Dollar วิ่งลง ทั้ง 3 คู่เงิน จะวิ่งขึ้น
  2. เมื่อกราฟวิ่งออกไปนอกกรอบ Bollinger Bands
  3. เกิด Divergence ของ Stochastic หรือ RSI หรือเมื่อเกิด Divergence พร้อมๆ กันทั้ง Stoch และ RSI หรือเกิด Divergence ของ Stoch อย่างเดียว หรือ RSI อย่างเดียว
  4. การ Take Profit หรือการปิดทำกำไร ก็เล็งที่เส้นกลางของ Bollinger Brands

หลักการเปิด Order ก็คือ

  1. สังเกตว่า กราฟวิ่งออกนอกกรอบ Bollinger Bands เรียบแล้ว ไม่ว่าจะใช้ Bollinger Bands ค่า Default คือ 20 หรือ ใช้ Bollinger Bands เปลี่ยนค่ากำหนดเป็น 90
  2. ดูว่า Stochastic เกิด Divergence ใน Time Frame ที่เราเล่นหรือยัง หากเกิดแล้ว ก็เปิด Order ได้ หรือจะใช้ Relative Strength Index ว่ามี Divergence หรือยังประกอบด้วย ก็ได้ เพื่อเป็นการยืนยันอีกชั้น แต่การเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นานๆ ทีจะเกิด อาจจะต้องใช้เวลานาน
  3. เมื่อเปิด Order ได้แล้ว ในการกำหนด Take Profit หรือการออกเป้า เบื้องต้นในเล็งที่เส้นกลางของ Bollinger Bands ที่เราใช้งาน

หมายเหตุ

  • กลยุทธนี้ ห้าม Prediction ทิศทาง หรือ Bias ว่ามันจะไปไกล หรือวิ่งเป็นเทรน
  • กลยุทธนี้ เล่น Sideway หรือการกลับตัวในกรอบแคบๆ เท่านั้น มีบ้างที่กลับตัวแล้วกลายเป็นเทรน วิ่งยาวไป

เทรดสั้น สไตล์ Forex Thunder

เริ่มต้นจากทุน 100$ ก่อนนะครับ และเทรดด้วย Lot size = .01 โดยมีเป้าหมายเก็บระยะ ที่ 100 จุด ต่อวัน ในรอบ 1 เดือน เราจะมีเวลาในการเทรด 20 วันต่อเดือน 5 วันต่อ สัปดาห์ คิดง่ายๆ คือ เก็บวันละ 1$ นี่คือเป้าหมายแรกก่อนนะครับ อยากให้เริ่มต้นๆ ง่ายๆ

ด้วยหลักการลงทุนทั่วๆ ไปแล้วนะครับ ลงทุน 100$ ถ้าทำกำไรได้วันละ 1$ หากเทรดครบ 1 เดือน เราจะได้กำไร 20$ หรือคิดเป็น ร้อยละ 20 ต่อเดือน ซึ่งในมุมมองส่วนตัวแล้ว มันมากมายเลยนะครับ เมื่อเทียบกับการฝากเงินกับธนาคารไว้กินดอกเบี้ย

โอเค การลงทุนแต่ละอย่าง มันมีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุนมากน้อยต่างกัน ลงทุนอย่างอื่นอาจจะได้มากกว่านี้ ก็ได้ แต่ตรงนี้ Admin ขอโฟกัส เฉพาะเรื่องการเทรด Forex แล้วกันนะครับ

ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจก่อน ทั้งความเป็นไปได้ของเป้า ทุน ความเสี่ยง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ผมจะแยกเป็นส่วนๆ เพื่อความสะดวกในการทำความเข้าใจนะครับ

# ลงทุน 100$

จะว่่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย สำหรับการเริ่มต้นลงทุน แต่ผมมองว่า ทุนมันไม่ได้เยอะมากมายอะไร สำหรับการเริ่มต้นลงทุน หรือเรียนรู้เพื่อการสร้างกำไร เพราะหากมองเป็นจำนวนเงินบาท ก็ประมาณ 3,200 บาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ Admin แชร์นะครับ) ผมมองว่าเงินเริ่มต้นลงทุนจำนวนนี้ ใครๆ ที่เริ่มคิดเรื่องลงทุนมาบ้างแล้ว ก็น่าจะพอหาหรือแบ่งเงินที่เก็บมา เพื่อใช้เริ่มต้นเรียนรู้ในการลงทุนได้ หากเทียบกับการลงทุนอย่างอื่นๆ มันอาจจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่านี้ เช่่น การเปิดร้านกาแฟ ร้านอาหาร (ผมต้องขออภัยเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วย ที่เอาธุรกิจของท่านมายกตัวอย่าง ผมไม่ได้มีเจตนาหรือลบหลู่ในอาชีพเหล่านี้นะครับ) คือผมเขียนในมุมมองของผม อย่างน้อยมันต้องมีทำเล มันต้องมีฝีมือ ฝนตกแดดออก มันก็มีผลกับลูกค้าทั้งหมด

# Lot Size = .01 $

เปิด Lot ในการเทรด .01 ถ้ากราฟวิ่งถูกทางไป 100 จุด เราจะได้กำไร 1$ หากวิ่งผิดทาง หรือวิ่งไปในทางตรงกันข้าม เราก็จะขาดทุน 1$

# ความเสี่ยงเรื่องการล้างพอร์ต

หากเราเปิด Order แค่ไม้เดียว คือ .01 lot เราจะทนลาก หรือความแกว่งของกราฟได้ประมาณ 10,000 จุดโดยประมาณ โดยปกติ ย้ำนะครับ โดยปกติกราฟคู่เงินของตลาด Forex จะวิ่งอยู่วันละ 400-1500 จุด โดยประมาณ ยกเว้นข่าวใหญ่ที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ เช่น ข่าวสงคราม แผ่นดินไหว ข่าวปรับดอกเบี้ยที่มันเกินที่คาดการณ์ของตลาดไว้ มันก็จะวิ่งแรงระดับ 3,000 – 10,000 จุดหรือมากกว่า ทำให้นักเทรดหลายคน โดนล้างพอร์ต ดังนั้นหากเราลงทุน 100$ และเปิด Order แค่ .01 lot พอร์ตเราจะทนถูกลากได้ 10,000 จุด เอาเป็นว่าไปได้น้อย นานๆ จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซักครั้ง จริงๆ ถ้าพิจารณากันดีๆ ทำอะไรมันก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย แล้วภายใต้ความเสี่ยงแต่ละเรื่อง เรามีแผนรองรับหรือเปล่า หากเกินเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดจริงๆ

ในกรณีนี้ โอกาสที่มันกราฟของคู่เงินหนึ่งๆ จะวิ่งวันเดียว 10,000 จุดมันเป็นไปได้ยาก แต่หากใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี มันย่อมถึงแน่นอน แต่กลยุทธ์นี้เรา เราเล่นแบบ Day Trade หรือเล่นวันต่อวัน อาจจะถือ Order ข้ามวันได้ แต่ก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์ แต่ไม่ควรถือ Order นาน เพราะเวลาเปลี่ยนเหตุการณ์เปลี่ยน อารมณ์ตลาดก็เปลี่ยน ผมขอยกเรื่องอารมณ์ตลาดไปว่ากันในอีกหัวข้อนะครับ

# ความเป็นไปได้ ในการทำกำไรวันละ 1$ หรือเก็บวันละ 100 จุด

มันก็ไม่อยากนะครับ คือกราฟวิ่งโดยเฉลี่ยของแต่ละคู่เงินสกุลหลัก มันวิ่งอยู่ที่วันละ 400-1500 จุดต่อวัน แต่เราขอแค่ 100 จุด ที่ถูกทางเท่านั้นเอง ผมว่าโอกาสมันมี โดยไม่จำเป็นต้องเฝ้ากราฟตลอดเวลาก็ได้

# ใช้กลยุทธ์ 3 Indicator ยืนยันพร้อมกัน

  1. Stochastic
  2. RSI (Relative Strength Index)
  3. Bollinger Bands

# เปิด Buy เมื่อ Stoch อยู่ต่ำกว่า 20 และ RSI อยู่ต่ำกว่า 30 และ กราฟอยู่นอกเส้น Bollinger Bands เส้นล่าง

# เปิด Sell เมื่อ Stoch อยู่สูงกว่า 80 และ RSI อยู่เหนือเส้น 70 และ กราฟอยู่นอกเส้น Bollinger Bands เส้นบน

# ทำกำไร หรือ Take Profit เมื่อกราฟวิ่งไปได้ระยะ 100 จุด หรือไม่อาจจะเล็งทีเส้นกลางของเส้น Bollinger Bands ก็ได้

# การ Cutloss หรือ Stoploss หรือการปิดการขาดทุนมากเกินไปหากปล่อยไว้ Order ไว้จนอารมณ์ตลาดเปลี่ยน โดยเงื่อนไขนี้ สำหรับผมเอง ไม่ตายตัวครับ ว่าต้องเท่าไหร่ แล้วแต่สถานการณ์ คือ

  • หากเทรดในตลาดมีเหตุการณ์ปกติ หากต้องตั้ง SL ก็จะตั้งไว้ประมาณ 200 จุด จากจุดเข้า นะครับ แต่ด้วยกลยุทธ์นี้ ผมเฝ้าหน้าจอ และใช้เวลาในการเทรดไม่นาน เน้นการเฝ้าหน้าจอ ดังนั้น จะไม่ค่อยตั้ง SL ยกเว้นกรณีต้องไปทำธุระด่วน ไปเข้าห้องน้ำ ไปทำธุระอะไรก็ตาม ที่ทำให้เราไม่ได้โฟกัสกับอารมณ์ของตลาด เราควรตั้ง SL ไว้ เท่าที่เรายอมรับได้ เพราะเราไม่รู้เหตุการณ์ในอนาคตว่า ตลาดจะทำอะไร หรือเกิดเหตุการณ์อะไร ดังนั้น ต้องกันด้วยการตั้ง SL ซะ หรือไม่ก็ปิด Order นั้นๆ ไปเลย
  • ในกรณีที่ตลาดวิ่งแบบไม่มีเหตุผล เช่น อยู่ดีก็วิ่ง 500-1000 จุดเลย หากเราอยู่ในสถานการณ์นั้น เล่นช่วงข่าว เวลามีข่าวตลาดก็จะวิ่งแรง หากเราผิดทาง ให้ดูที่ต้นทุน ว่าเรายอมรับการขาดทุนได้เท่าไหร่ หากมีทุน 100$ หาก Order วิ่งผิดทางและ Order เราติดลบอยู่ หากจะตัดขาดทุน ผมมองว่า ติดลบ 10-20$ ผมก็มองว่า น่าจะทำการ Cutloss ได้แล้ว เพราะเงินทุนเราหายไป 20 % แล้ว ความเสี่ยงเราจะเพิ่มขึ้น และโอกาสในการทำกำไร กลับมาเพื่อคืนทุนมันก็ยากเป็นเงาตามตัว ยังไงผมมีคำแนะนำประมาณนี้

*** หมายเหตุ *** กลยุทธ์นี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ โปรดพิจารณาและศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำ ดูกราฟย้อนหลัง ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือเข้าเงื่อนไขแบบนี้ บ่อยแค่ไหน เหมาะที่จะใช้งานกลยุทธ์นี้หรือเปล่า ลองพิจารณาดูครับ